การถวายหมอนพระ

หมอน เป็น เครื่องนอนอย่างหนึ่งที่ใช้ศีรษะหนุนเวลานอน ไม่ทราบชัดอย่างแน่นอน ว่าถูกประดิษฐ์ขึ้นในยุคใด จากการค้นพบหมอนที่เก่าแก่ที่สุด คือ หมอนในอียิปต์โบราณ ซึ่งทำจากหิน

นอกจากใช้หนุนนอนแล้ว ยังสามารถ นำไปใช้ประโยชน์อื่นๆเช่น ใช้กอด ใช้อิง ในประเทศไทย หมอนในแต่ละภูมิภาคก็มีเอกลักษณ์ต่างๆกันไป เช่น หมอนสี่เหลี่ยมทางภาคอิสาน หรือ หมอนขวานทางภาคกลาง วัดราชโอรสารามราชวรวิหารเป็นที่รู้จัก และติดอันดับ Unseen ประเทศไทย ก็เนื่องด้วย สถาปัตยกรรมจีนในวัดไทย แต่ขอแนะนำกิจกรรมการทำบุญในวัดอีกบางประการ ซึ่งคิดว่ายังไม่เป็นที่แพร่หลาย และหาชมได้น้อยยิ่งที่วัดอื่น นั่นก็คือ "การถวายหมอนพระนอน"

อานิสงส์การถวายหมอน

ความเชื่อเรื่องอานิสงส์ จากการทำบุญด้วยการถวายหมอน มีดังนี้

1. ได้ใช้หมอนที่ยัดด้วยขนสัตว์ ที่ยัดด้วยเกสรบัวหลวง และยัดด้วยจุรณจันทน์แดง หนุนศีรษะทุกเมื่อ

2. ทำญาณให้เกิดในอัฏฐังคิกมรรคอย่างประเสริฐและในสามัญผล 4 เหล่านั้น อยู่ตลอดกาลเป็นนิตย์

3. ทำญาณให้เกิดในทาน ทมะ สัญญมะ อัปปมัญญา และรูปฌานเหล่านั้น อยู่ตลอดกาลทั้งปวง

4. ทำญาณให้เกิดในวัตร คุณ การปฏิบัติอาจารและกิริยา อยู่ตลอดกาลทั้งปวง

5. ทำญาณให้เกิดในการเดินจงกรม ในความเพียรที่เป็นประธาน และในโพธิปักขิยธรรมเหล่านั้น อยู่ตามความปรารถนา

6. ทำญาณให้เกิดในศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะเหล่านั้นแล้วอยู่เป็นสุข 1

คำถวายหมอน (พระสงฆ์)

อิมานิ มะยัง ภันเต พิมโพหะนานิ สะปะริวารานิ จาตุททิสัสสะ ภิกขุสังฆัสสะ อาคะตา นาคะตัสสะ วะลัญชะนัตถายะ อิมัสสะหมิง อาวาเส โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ พิมโพหะนานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัญเจวะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ปิยะชะนานัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะฯ

ข้า แต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายหมอน พร้อมกับของบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ไว้ในอาวาสนี้ เพื่อประโยชน์เป็นเครื่องใช้สอย ของพระภิกษุสงฆ์ผู้อยู่ในทิศทั้ง 4 ทั้งที่มาแล้วและยังมิได้มา ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับหมอน พร้อมกับของบริวารทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลายเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้า ทั้งหลายด้วย แก่ปิยชนทั้งหลาย มีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย ตลอดกาลนานเทอญ

อย่างไรก็ดีความเชื่อว่าจะเป็นผู้ที่มีความอดทนสูง ไม่ถ้อถอยได้ง่ายๆ จะทำงานหรือทำสิ่งใดก็มักประสบความสำเร็จเสมอ และ จะมีผู้ที่คอยเกื้อหนุน หรือ สนับสนุนค้ำชู คุณอยู่เสมอ

iTable ของแปลกที่อาจจะขายเร็วๆนี้

iTable ของแปลกที่อาจจะขายเร็วๆนี้

สินค้าแนวๆ หมู่นี้มีให้ดูกันเยอะ อย่างล่าสุดนี่ เห็นครั้งแรกผมคิดว่าใครเอา iPhone ยักษ์มาวางซ้อนกัน แต่จริงๆแล้วมันคือโต๊ะกาแฟต่างหาก เรียกกันเล่นๆว่า iTable โดยเจ้าโต๊ะที่ว่านี้เป็นการออกแบบของ Mr.Kyle Buckner ซึ่งเป็นนักออกแบบตบแต่งภายในรถยนต์ โดยเฉพาะพวกเครื่องเสียงภายในรถยนต์ที่ต้องมีการออกแบบตู้ลำโพงหรือส่วน ประกอบในการติดตั้งต่างๆให้เข้าตัวรถ  โดยในตอนนี้ Kyle Buckner เริ่มมีไอเดียหันมาจับงาน เฟอร์นิเจอร์ รูปแบบแปลกๆ อย่างพวกแนว Apple  โดยเจ้า iTable นี้ มันถูกสร้างแบบค่อนข้างพิถีพิถัน ตัววัสดุแผ่นรองที่ใช้ผิวหน้าโต๊ะเป็นวัสดุแบบป้องกันรอยขูดขีด

และภายในตัวโต๊ะเองก็ซ่อนลำโพง ซับวูฟเฟอร์ ไว้ภายใน มีที่วางแก้วน้ำทำเป็นหลุมทั้งสองข้าง ลำโพงสามารถเลื่อนขึ้นลงได้ โดยสามารถนำเอา iPod หรือ iPhone มาเสียบลงบนแท่นเพื่อแปลงโต๊ะนี้กลายเป็นตู้เพลงขนาดใหญ่ได้สบายๆ ตอนนี้โต๊ะที่ว่า เพิ่งจะออกแบบตัวต้นแบบเสร็จ ส่วนเรื่องราคานั้นเค้ายังไม่ได้ตั้งว่าจะขายเท่าไรดี แต่เชื่อว่าไม่ถูกแน่นอน หากดูจากใน VDO แล้วผมว่า ช่างไทยลูบมุมปากช้าๆ แล้วบอกว่าหวานหมู งานแค่นี้ช่างไทยบอกว่ากล้วยๆ หากคิดอยากจะทำ

ถอดรหัส Mercedes Benz A-Class Concept สปอร์ตน้องเล็กที่พร้อมจะลุย

เมื่อไม่นานมานี้ค่ายรถยนต์ดาวสามแฉกดูเหมือนจะกลับมาสร้างความสนใจได้อีก ครั้ง หลังเตรียมเปิดตัว รถรุ่นใหม่ทั้ง 2 เวทีที่นิวยอร์และเซี่ยงไฮ ด้วยซับคอมแพ็ค์สุดหรูคันใหม่ที่จะมาเขย่าตลาดในอนาคต

แม้เราจะผ่านหน้าผ่านตากับภาพของ Mercedes Benz A-Class Concept ไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่ดูเหมือนว่ารถยนต์รุ่นนี้จะตราตรึงใครหลายคนอย่างมาก และล่าสุดหัวหน้าทีมออกแบบของ A-class ก็มาเปิดเผยแนวทางผ่านวีดีโอเบื้องหลังกัน

ในวีดีโอความยาวประมาณ 1.4 นาที Mark Fetherston หัวหน้าทีมออกแบบได้พูดถึงหลายๆส่วนของการออกแบบ A- Class Concept ที่แม้รถรุ่นนี้จะยังเป็นเพียง คอนเซ็ปต์คาร์ แต่มันก็น่าประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว

Nissan compact Sport… ตัวแรงลำเล็กพร้อมฟัดตลาดสปอร์ต

แม้จะเขย่าตลาดคอมแพ็คแรงๆ ไปแล้ว สำหรับค่ายรถยนต์ Nissan ที่ในงานที่เซี่ยงไฮ้นั้นได้นำall new! Nissan Tida ใหม่มาอวดโฉมกันอย่างเป็นทางการ ทว่าในงานเดียวกันนี้ แม้ Tida คือพระเอก แต่พระรองอย่างต้นแบบสปอร์ตพันธ์เล็กอารมณ์ดีจาก nismo ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และมันดูคล้ายๆอีโค่คาร์ในบ้านเราด้วย

Nissan ได้แนะนำรถคอนเซปต์คันใหม่สู่เวทีที่เซี่ยงไฮ้ที่หวังเจาะใจกลุ่มคนรักความเร็ว ด้วยการแนะนำต้นแบบรถเล็กสุดสปอร์ตที่เป็นผลงานจากค่าย Nismo มาชิมลางตลาดสปอร์ตสำหรับใครที่ไม่ได้คิดอยากได้รถใหญ่มากนัก

ผลงานใหม่สุดๆที่น่าสนใจด้วยทรวงทรงที่คล้าย Nissan March หรือ Micra ใหม่ ที่มีฐานการผลิตอยู่บ้านเรา ภายใต้ชื่อ Nissan Compact Sport นี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานใหญ่ออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Nissan ในญี่ปุ่นที่กับบริษัทออกแบบที่เมืองปักกิ่งที่ได้จับเอาเส้นสายของรถรุ่นมาแปลงเป็นเวอร์ชั่น 3 ประตู เพิ่มความสปอร์ตที่เรียบง่ายแต่ชัดเจน

ก่อนเสริมเขี้ยวเล็บให้ดูดันปัดความน่ารักออกไปด้วยลักษณะการเสริมโป่งรอบคัน หรือที่หลายคนอาจชินเรียกอีกอย่างว่า wide Body ที่ขัดเกลาให้รถมีความโฉบเฉี่ยว พร้อมความปราดเปรียว ในขณะที่รายละเอียดอื่นๆนั้นยังไม่มีมากนัก นอกจากภาพที่นำมาให้ชมกัน

ในห้องโดยสารค่าย Nissan พุ่งเป้าไปที่ความทันสมัยอย่างชัดเจนที่เน้นเกาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น โดยตบแต่งในแนวที่เรียกความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ถ้าเทียบกับรถเล็กปัจจุบัน และภายในเติมเต็มความสปอร์ตให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แน่นอนเมื่อพูดถึงรถสปอร์ต หลายคนคงต้องสนใจเครื่องยนต์และดูเหมือนว่าครั้งนี้ Nissan Compact Sport จะพกความแรงมาเต็มสูบกับการยืนยันที่จะวางเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ที่พกแรงมาฟัดรุ่นใหญ่ถึง 190 แรงม้า จากโรงงาน จับคู่มากับ Direct injection แล้วส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ Xtronic CVT ที่มี Manual shift Mode มาให้เล่นกันอีกด้วย

ทั้งนี้ Nissan ยังไม่มีการเผยแผนงานในรถรุ่นดังกล่าวแต่ก็ไม่น่าแปลกใจนัก ถ้าจะพบว่ารถต้นแบบคันนี้จะเป็นสปอร์ตที่พร้อมลุยจากโรงงานที่บางนา-ตราด กม. 22 เพียงแต่เรายังไม่มีข้อมูลมาพอที่ฟันธง ทว่าต้องยอมรับว่ามันน่าสนใจจริงๆ

เครดิต : www.sanook.com

หลากหลายความเชื่อเกี่ยวกับแมว

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลายบ้านมีไว้เลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงา แต่ในทางความเชื่อโบราณแล้วแมวมีมากกว่าแค่คลายเหงาแต่จะเป็นอะไรบ้างนั้นมาดูพร้อมๆกันเลย

รก เป็นเครื่องสำหรับหล่อเลี้ยงชีวิตในครรภ์แนบอยู่กับมดลูก มีสายต่อกับสะดือลูกอ่อน เฉพาะรกของแมวชาวล้านนาเชื่อว่าเป็นเครื่องรางนำโชค จึงนิยมเก็บรกไว้เพื่อประโยชน์ในทางค้าขาย ดังนั้นในขณะที่แมวจะออกลูก เจ้าของมักคอยจดจ้องที่จะเอารกแมวให้ได้

ทั้งนี้โบราณท่านว่า ถ้าจะให้ได้ผลต้องมีพิธีกรรมตามขั้นตอนก่อน กล่าวคือ อันดับแรก เมื่อแมวมีอาการเหมือนจะออกลูกให้เจ้าของจัดเตรียมสถานที่ โดยจัดหาผ้าที่อ่อนนุ่มไว้ในบริเวณที่มิดชิด และแม่แมวคิดว่าปลอดภัย เมื่อเห็นแมวพอใจซึ่งสังเกตง่าย ๆ คือ แม่แมวจะทดลองนอนและจัดที่เกิดให้เข้าที่ ณ เวลานั้นให้เจ้าของนำปลาปิ้ง ซึ่งนิยมใช้ปลาตะเพียนใส่ภาชนะ บอกกล่าวแม่แมวเพื่อเอ่ยขอว่า

"...เอ่อหนี้เน้อ นางวิฬา กูมีสะเพียนปล๋า มาแลกเอาฮก ป๊กเจ้าแม่ป๊ก ฮกนางวิฬา..."

จากนั้น เฝ้าจับตาทุกขณะ เพราะแมวมักกินรกเสมอเมื่อลูกออกมา และเมื่อรกออกให้กล่าวทักทายรกว่า

"...ฮกเหยฮก บ่ป๊กแต่น้ำ ป๊กเงินป๊กฅำ ป๊กกอบก๋ำเข้า โภคา ธะนัง หลั่งไหลหาเจ้า วิฬาป๊กเอา ก่อก๊ำ..."

เมื่อได้รกแล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิท พอถึงวันแรม ๑๕ ค่ำ ให้นำมาเสกเป่าด้วยคาถาว่า

"พุทธ สัง มิ สัง สิ โม นา ธัมมะ สัง มิ โม นา สัง สิ สังฆะ สัง มิ สิ โม นา สัง พหุชะนานัง เอหิ จิตตัง เอหิ มะนุสสานัง เอหิ ลาภัง เอหิ สัพพะโภคัง ภะวันตุ เมฯ

เสกให้ครบ ๑๐๘ คาบ แล้วปิดทองให้ทั่ว เก็บไว้กับบ้านเรือนร้านค้า เชื่อว่าจะให้คุณทางเมตตามหานิยม ซื้อง่ายขายได้กำไร ประสบแต่โชคลาภอยู่เนือง ๆ

น้ำมนต์แมว
การบริโภคอาหารที่ปรุงจากปลา บางครั้งประสบปัญหาก้างติดคอ ทำให้ได้รับความทุกขเวทนา โบราณให้นำน้ำใส่ภาชนะไปวางเฉพาะหน้าแมว หากแมวกินน้ำหรือแม้กระทั่งดม ก็ถือได้ว่าน้ำนั้นเป็น "น้ำมนต์แมว" ให้นำไปให้คนที่ก้างติดคอดื่มกิน เชื่อกันว่าก้างจะหลุดไปกับน้ำนั้น เพราะโดยธรรมชาติของแมว มีความสามารถกินปลาเป็นพิเศษ ก้างจึงไม่ติดคอแมว

ก้างติดแมวเกา
มีอีกวิธีหนึ่ง กรณีที่ก้างติดคอ ท่านให้เอาเท้าหน้าของแมวลากผ่านลูกระเดือกเสมือนเอามือแมวมาเกา ก้างนั้นจะหลุดทันที

แมวซ่วยหน้า
อากัปกริยาของแมวอย่างหนึ่ง คือเอาเท้าหน้าข้างใดข้างหนึ่งปัดหน้า เหมือนมัน "ซ่วยหน้า" คือล้างหน้าตัวเอง ทายว่าไม่นานจะมีคนที่อยู่แดนไกลมาเยี่ยมเยือนเจ้าของบ้าน

แมววิ่งตัดหน้า
ขณะเดินทางไปไหนมาไหน หากมีแมวสีขาวหรือสีดำวิ่งตัดหน้ากะทันหัน ก็มีคำทำนายว่าจะดีหรือร้าย กล่าวคือ แมวขาววิ่งตัดหน้าจะได้รับข่าวดี แต่ถ้าแมวดำวิ่งตัดหน้าจะได้รับข่าวร้าย

แมวข้ามหล้อง
ในขณะที่ตั้งศพอยู่ที่บ้านหรือที่วัด ถ้ามีแมวสีดำกระโดดข้าม "หล้อง" คือโลงศพนั้น เชื่อว่าวิญญาณของคนที่ตายจะดุร้าย เที่ยวหลอกหลอนและทำร้ายผู้คนมากมาย

ฝันเห็นแมว
โบราณล้านนาเชื่อว่า ถ้าใครฝันเห็นแมวนั้นเป็นเรื่องไม่ค่อยดี จะขัดสนเงินทองทรัพย์สิน ญาติมิตรไม่ยินดีจะคบหาสมาคม มิหนำซ้ำยังพากันรังเกียจโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ

แห่นางแมว
ปีใดฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล โบราณจะมีพิธีแห่นางแมวเพื่อขอฝน โดยนำแมวตัวเมียมาแต่งหน้าทาปากนุ่งห่มเหมือนคนแล้วตั้งขบวนแห่แหนไปตามหมู่ บ้าน ผู้ชายที่ร่วมขบวนจะแต่งกายเป็นหญิงถือรูปอวัยวะเพศร่วมขบวน ส่วนคนที่พบเห็นจะสาดน้ำใส่กลุ่มผู้เข้าร่วมขบวน และรุมสาดน้ำใส่แมวอย่างคึกคะนอง ด้วยว่าการกระทำเช่นนี้ จะทำให้ฝนตก

ห้ามเลี้ยงแมวห้าตัว
ในตำราโบราณล้านนา กล่าวถึงสิ่งไม่ควรมีไว้กับบ้านเรือน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวระบุจำนวนไว้ ดังนี้

เอ โก มหิงสโก ควายตัวเดียว ติ โคโณ วัวสามตัว เทฺว ภริยา เมียสองคน ฉะ สุนขา หมาหกตัว จุต ทาสา คนใช้สี่คน ปัญฺจ มัชชารี แมวห้าตัว สัตตะ อาชา ม้าเจ็ดตัว อัฏฐ กุญชรา ช้างแปดเชือก เทฺว อาวุธา ดาบสองเล่ม เทฺว จ เกสี หญิงมีช้องเสียบผมสองอัน

ดังนั้นชาวล้านนา จึงไม่นิยมเลี้ยงแมวห้าตัว เพราะเกรงจะเกิดอุบัติภัยกับคนในครอบครัวตามความเชื่อ

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

ตำนานนางสงกรานต์

ตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กล่าวตามพระบาลีฝ่ายรามัญว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีคนหนึ่ง รวยทรัพย์แต่อาภัพบุตร ตั้งบ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุราที่มีบุตรสองคน วันหนึ่งนักเลงสุราต่อว่าเศรษฐีจนกระทั่งเศรษฐีน้อยใจ จึงได้บวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐานอยู่กว่าสามปี ก็ไร้วี่แววที่จะมีบุตร อยู่มาวันหนึ่งพอถึงช่วงที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีได้พาบริวารไปยังต้นไทรริมน้ำ

พอถึงก็ได้เอาข้าวสารลงล้างในน้ำเจ็ดครั้ง แล้วหุงบูชาอธิษฐานขอบุตรกับรุกขเทวดาในต้นไทรนั้น รุกขเทวดาเห็นใจเศรษฐี จึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ ไม่ช้าพระอินทร์ก็มีเมตตาประทานให้เทพบุตรองค์หนึ่งนาม "ธรรมบาล" ลงไปปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี ไม่ช้าก็คลอดออกมา เศรษฐีตั้งชื่อให้กุมารน้อยนี้ว่า ธรรมบาลกุมาร และได้ปลูกปราสาทไว้ใต้ต้นไทรให้กุมารนี้อยู่อาศัย

ต่อมาเมื่อธรรมบาลกุมารโตขึ้น ก็ได้เรียนรู้ซึ่งภาษานก และเรียนไตรเภทจบเมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาได้เป็นอาจารย์บอกมงคลต่าง ๆ แก่คนทั้งหลาย อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวกบิลพรหม ได้ลงมาถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ ถ้าธรรมบาลกุมารตอบได้ก็จะตัดเศียรบูชา แต่ถ้าตอบไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารว่า ตอนเช้าศรีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำศรีอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นธรรมบาลกุมารจึงขอผัดผ่อนกับท้าวกบิลพรหมเป็นเวลา 7 วัน

ทางธรรมบาลกุมารก็พยายามคิดค้นหาคำตอบ ล่วงเข้าวันที่ 6 ธรรมบาลกุมารก็ลงจากปราสาทมานอนอยู่ใต้ต้นตาล เขาคิดว่า ขอตายในที่ลับยังดีกว่าไปตายด้วยอาญาท้าวกบิลพรหม บังเอิญบนต้นไม้มีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียเกาะทำรังอยู่ นางนกอินทรีถามสามีว่า พรุ่งนี้เราจะไปหาอาหารแห่งใด สามีตอบนางนกว่า เราจะไปกินศพธรรมบาลกุมาร

ซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสีย ด้วยแก้ปัญหาไม่ได้ นางนกจึงถามว่า คำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามคืออะไร สามีก็เล่าให้ฟัง ซึ่งนางนกก็ไม่สามารถตอบได้ สามีจึงเฉลยว่า ตอนเช้า ศรีจะอยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุก ๆ เช้า ตอนเที่ยง ศรีจะอยู่ที่อก คนจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก ส่วนตอนเย็น ศรีจะอยู่ที่เท้า คนจึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน ธรรมบาลกุมารก็ได้ทราบเรื่องที่นกอินทรีคุยกันตลอด จึงจดจำไว้

ครั้นรุ่งขึ้น ท้าวกบิลพรหมก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกประการ ธรรมบาลกุมารจึงนำคำตอบที่ได้ยินจากนกไปตอบกับท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกธิดาทั้งเจ็ดอันเป็นบาทบาจาริกาพระอินทร์มาประชุม พร้อมกัน แล้วบอกว่า เราจะตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมาร ถ้าจะตั้งไว้ยังแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้โลก ถ้าจะโยนขึ้นไปบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งในมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนำพานมารองรับ แล้วก็ตัดเศียรให้นางทุงษะ ผู้เป็นธิดาองค์โต จากนั้นนางทุงษะก็อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมเวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ

จากนั้นมาทุก ๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้ง 7 ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมแห่ไปรอบ เขาพระสุเมรุ เป็นเวลา 60 นาที แล้วประดิษฐานตามเดิม ในแต่ละปีนางสงกรานต์แต่ละนางจะทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันตามวันมหาสงกรานต์ ดังนี้

1. ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม ทุงษะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ

2. ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ)

3. ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู)

4. ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา)

5. ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง)

6. ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย)

7. ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง)

สำหรับความเชื่อทางล้านนานั้นจะมีว่า

1. วันอาทิตย์ ชื่อ นางแพงศรี
2. วันจันทร์ ชื่อ นางมโนรา
3. วันอังคาร ชื่อ นางรากษสเทวี
4. วันพุธ ชื่อ นางมันทะ
5. วันพฤหัส ชื่อ นากัญญาเทพ
6. วันศุกร์ ชื่อ นางริญโท
7. วันเสาร์ ชื่อ นางสามาเทวี

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย

Nissan ปลื้ม Altima ยอดพุ่ง เตรียมส่ง Versa โชว์ ตัว นิวยอร์ค

 นิสสันปลื้มแซงหน้าคู่แข่งในตลาดอเมริกา วงในเผยเตรียมปล่อยว่าที่ Versa  โชว์ตัวที่นิวยอร์ค

     ค่ายรถยนต์พันธมิตรแดนน้ำหอมประกาศชัยชนะตลาดซีดานกลางหลัง  Nissan Altima  คว้าชัยเหนือคู่แข่ง ด้วยยอดส่วนแบ่งตลาดที่พุ่งถึง 9.7 เปอร์เซ็นต์ในอเมริกาเมื่อเดือนที่ผ่านมา และมวลรวมการเติบโตส่วนแบ่งตลาดของ Nissan นั้น พุ่งสูงกว่า 9.3 เปอร์เซ็นในไตรมาสแรกของปีนี้

     ไม่เพียงแค่ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ Nissan Altima ยังสามารถคว้าตำแหน่งรถนั่ง 4 ประตูยอดเยี่ยมในอเมริกามาได้อีกด้วย หลังมียอดจำหน่ายไปกว่า 32,289 คัน  เพิ่มขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมในช่วงปีที่แล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ Nissan ขายรถ Altima ไปแล้วกว่า  121,141 คัน

     สาเหตุหนึ่งที่เชื่อว่าทำให้  Nissan Altima  ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นนั้นก็มาจากโปรโมชั่นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระภายใต้เงื่อนไขดอกเบี้ย 0%  ได้ในการผ่อน 60 เดือน หรือ ผ่อน 72 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยเพียง 1.9 % ที่นอกจากนี้ยังรับส่วนลดเงินสดอีก 1250 ดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 42,000 บาท อีกด้วย

    อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เพียงข่าวดีสำหรับสาวก Nissan ในตลาด สหรัฐ อเมริกา แต่ล่าสุดดูเหมือน  Nissan  จะมีแผนการใหญ่ในการเปิดตัว แนะนำ Nissan Altima  อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางงาน New York auto show  ที่จะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้ ในขณะที่การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น ยังไม่มีการเปิดเผย

10 อันดับโน๊ตบุ๊คที่นิยมที่สุด

10 อันดับโน๊ตบุ๊ค ทั้งรุ่นเก่าแหละรุ่นใหม่ ลองมาดูกันว่าจะเป็นรุ่นเดียวกับ ของคุณรึป่าว

10 Asus Z99SR-4p034C

รุ่นนี้ถือเป็น รุ่นยอดฮิตในอดีตของ ASUS อีกรุ่นหนึ่ง ที่ยอดนิยมจนถึงขนาดครั้งหนึ่งของเคยขาดตลาดหาซื้อกันไม่ได้เลย ด้วยสเปกที่โดดเด่นทั้ง cpu (เคย) สุดแรงอย่าง T7500 รุ่นนี้แม้จะเป็นรุ่นเก่าแต่ก็แรงกว่า cpu รุ่นใหม่ๆ หลายๆ รุ่น มาพร้อมด้วยการ์ดจอเจ้าแห่งสีสันอย่าง ATI HD2400 ที่มีประสิทธิภาพดีพอควรและให้สีสันที่สวยงาม ฮาร์ดดิสก์มากถึง 250GB มาพร้อมประกันที่มากถึง 2 ปี ในช่วงเวลาที่โน๊ตบุ๊กรุ่นนี้วางขาย สเปกขนาดนี้ในราคา 2 หมื่นกว่าๆ จึงทำให้หาตัวจับยากในราคาแบบนี้ จึงทำให้พูดถึงกันเยอะจนเข้ามาติดอันดับ 10 ของเราในที่สุด

9 BenQ Joybook s41-LM63

นับเป็นอีกรุ่น ที่มีสายเลือดของ s41 ซึ่งจัดได้ว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดของ s41 ด้วยค่าตัวที่ถูกที่สุดของ s41 แม้จะลดขนาดฮาร์ดดิสก์และขนาดแรมลง แต่ยังคงจุดเด่นต่างๆ ของ s41 ไว้อย่างครบครันรวมถึงการ์ดจอสุดแรงอย่าง Geforce 8600M GS ในราคา 2 หมื่นต้นๆ จาก 3 หมื่นกว่าๆ จึงทำให้ใครหลายคนแปลกใจกับเบนคิวว่าไมจึงหั่นราคาลงมาขนาดนี้ จึงได้รับการพูดถึงคอมเม้นมากอีกรุ่นจนเข้ามาติดอันดับ 9 ในที่สุด ถึงแม้ปัจจุบันซีรี่ย์นี้จะไม่มีขายแล้ว แต่ก็มีซีรีย์อื่นมาทดแทนในปัจจุบัน ในราคาที่คุ้มค่าและสเปกที่ดีกว่า lm63 นั่นคือ lm77 นั่นเอง

8 Asus F8VR-4P025D

รุ่นนี้จัดเป็น รุ่นที่คุ้มค่ามากรุ่นหนึ่งด้วยสเปก ราคา และการออกแบบที่สวยงามไม่ทิ้งลาย ASUS จนทำให้หาซื้อได้ยากอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับสเปกใหม่ๆ ทั้งแพลตฟอร์มเซนทริโน 2 ซีพียู Intel Core 2 Duo P8400 (2.26 GHz, FSB 1066 MHz, L2 3 MB) และเป็นรุ่นแรกๆ ที่ใช้การ์ดจอแรงๆ อย่าง ATI HD3470 ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในราคาที่สามารถจับต้องได้อย่างสบายๆ เพียง 31,900 บาท เท่านั้น

7 Toshiba Satellite M300-E430T

เป็นหนึ่งเดียว ของโน๊ตบุ๊กจาก Toshiba ที่หลุดเข้ามา ด้วยความน่าเชื่อถือของยี่ห้อนี้บวกกับ ซีรีย์ M300 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้มีการกล่าวถึงไม่น้อยยิ่งรุ่นนี้ถึงแม้จะมีราคาที่สูงไปสักหน่อยเมื่อ เทียบกับยี่ห้ออื่นๆ แต่ก็จัดได้ว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดของ Toshiba ก็ว่าได้ ทั้งซีพียู T5750 ที่มีประสิทธิภาพสูง การ์ดจอที่แรงไม่น้อยอย่าง ATI HD3470 ฮาร์ดดิสก์ 200GB เท่านี้ก็เพียงพอในการใช้งานรวมถึงเล่นเกมแล้ว ในราคาค่าตัวที่ถ้าใครชอบ Toshiba อยู่แล้วก็สามารถคว้าได้ไม่ยากที่ 35,900 บาท

6 Asus F80S-4P090

ASUS เข้าวินมาอันดับ 6 อย่างไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยเพราะ ASUS โดดเด่นด้วยประกันที่มากถึง 2 ปี โดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม แถมบริการหลังการขายที่ดีแบบไม่แพ้ยี่ห้อใดๆ แม้รุ่นนี้จะไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มเซนทริโน2 ที่เต็มรูปแบบ เพราะใช้ชิพ sis แทน Intel แต่ก็มาด้วย cpu รุ่นใหม่อย่าง Intel Core 2 Duo P7350 (2.0 GHz, FSB 1066 MHz, L2 3 MB) ที่ออกมาเพื่อรองรับแพลตฟอร์มเซนทริโน2 ทั้งแรงและประหยัดพลังงานมากขึ้น ทำให้มีราคาค่าตัวถูกกว่ายี่ห้ออื่นที่ใช้ชิบเซต Intel อีกทั้งยังมาพร้อมการ์ดจอจากค่ายสีแดงอย่าง ATI 3470 ที่มีประสิทธิภาพและให้สีสันที่สวยงามไม่แพ้ค่ายสีเขียว และฮาร์ดดิสก์ความจุสูงถึง 250GB แถมตัวนี้มีดีไซน์ที่สวยงามไม่แพ้โน๊ตบุ๊กรุ่นอื่นๆ ทำให้รุ่นนี้มาติดอันดับ 6ได้อย่างไม่ยากเย็น

5 Compaq Presario CQ40-104AX

เป็นโน๊ตบุ๊ก จาก Compaq ที่ใช้ซีพียู AMD เพียงรุ่นเดียว ที่ติดเข้ามาใน Top 10 ด้วยสเปกที่เรียกได้ว่าจัดจ้านมาก ทั้งซีพียู AMD ในรุ่นระดับสูง RM-70 การ์ดจอแยกจาก ATI ที่เห็นชื่อรุ่นแล้วก็คงทราบได้ทันที่ว่าแรงขนาดไหนกับ HD3450 และสเปกอื่นๆ ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าโน๊ตบุ๊กรุ่นอื่นๆ เลย แถมด้วยราคาที่ไม่น่าเชื่อว่าราคานี้ได้การ์ดจอแยกด้วยเพียง 19,900 บาทเท่านั้น ถูกขนาดนี้กับสเปกที่แรงไม่หยอก ย่อมทำให้เป็นที่พูดถึงได้ไม่ยากเลย

4 BenQ Joybook s41-LM60

รุ่นนี้ถือเป็น รุ่นพระเอกในอดีตของ BenQ เลยก็ว่าได้ ทำให้เบนคิวมียอดขายดีถึงระดับติด Top 5 เลย อีกทั้งยังเป็นรุ่นพี่ของโน้ตบุ๊กสุดฮิตอย่าง s42 สาเหตุที่รุ่นนี้คนคอมเม้นเยอะมากเป็นอับดับ 4 แม้ว่าจะออกมาทำตลาดนานถึงเกือบๆ จะ 2 ปีแล้ว เพราะด้วยความแรงของการ์ดจออย่าง Geforce 8600 ที่ยังครองใจคอมเกมเมอร์หลายๆ คนเป็นอย่างดีด้วยประสิทธิภาพที่สูงไม่แพ้การืดจอรุ่นใหม่ๆ จากราคาเปิดตัวใหม่ๆ ที่สูงถึง 4 หมื่นกว่าจนปัจจุบันเหลือแค่ 2 หมื่นกว่าเท่านั้น ในสเปกที่ดีกว่าในรุ่นเปิดตัวหลายๆ อย่าง ทั้ง cpu แรงขึ้น แรมมากขึ้น ฮาร์ดดิสค์มากขึ้น ถึงแม้จะมีรุ่นใหม่จากเซนทริโน 2 มาสู้กับ s41 แต่ด้วยประสิทธิภาพและราคาของ s41 บวกกับสามารถลงไดเวอร์ xp ได้อย่างไม่มีปัญหา เหมือนโน๊ตบุ๊กยี่ห้ออื่นหรือโน๊ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ จึงทำให้รุ่นนี้ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย

3 Lenovo IdeaPad Y430/P7450

Lenovo IdeaPad Y430/7450 เป็นหนึ่งใน Notebook ที่น่าจับตามองในความคุ้มค่า เนื่องจากสเปกที่โดดเด่นในราคาที่ไม่สูงมากนัก มีความทนทานสูงด้วยต้นแบบที่มาจาก ThinkPad อีกทั้งมีประสิทธิภาพที่จัดอยู่ในระดับที่ดี สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ การสั่งงานระบบ Multimedia แบบสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับเสียงหรือการใช้งานพื้นฐานในระบบ Entertainment ก็ง่ายไปหมด มีลำโพง 5.1 Channel Dolby Home Theatre Digital ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูหนัง ฟังเพลง ด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง ด้านประสิทธิภาพการแสดงผลนั้นใช้งานกราฟิกการ์ดระดับ GeForce 9300M GS จึงทำให้สามารถทำงานกราฟิกได้อย่างลงตัว รองรับภาพยนตร์แบบ HD เต็มรูปแบบด้วย HDMI Port พร้อมปุ่ม One Key Rescue ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่สามารถ Recovery ข้อมูลได้ทันที ในปุ่มเดียว ส่วนในด้านการรักษาความปลอดภัย Lenovo ได้ติดตั้งกล้องที่ใช้ระบบ Veriface ซึ่งเป็นระบบสแกนใบหน้ามาให้ด้วย อีกทั้งได้อัพเกรด CPU เป็นรุ่น P7450 และแรมระดับ DDR3 เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น ในราคาเท่าเดิม จึงทำให้ Lenovo IdeaPad Y430/7450 เป็นโน๊ตบุ๊กที่คุ้มค่ามากที่สุดจนเป็นเป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊กที่มีคนคอมเม้น มากที่สุด
 
2 BenQ Joybook s42-LM05

จากที่ได้ บรรยายถึงข้อดีของ s42 ไปในอันดับ1 จึงทำให้ s42 อีกรุ่นหนึ่งที่เป็นรุ่นระดับ Top ของ s42 มาติดอันดับ2 แบบติดกัน โดยรุ่นนี้ต่างจาก lm01 คือ cpu ที่แรงกว่าคือใช้ Intel Core 2 Duo P8600 (2.4 GHz, FSB 1066 MHz, L2 3 MB) ในขณะที่ตัว lm01 ใช้ Intel Core 2 Duo P8400 (2.26 GHz, FSB 1066 MHz, L2 3 MB) ให้การทำงานพวกตัดต่อแปลงไฟล์ เขียนโปรแกรมมีประสิทธิภาพมากกว่า ถึงแม้จะต้องเพิ่มเงินอีก 3000 บาท เพื่อแลกกับ cpu ที่แรงขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังไง s42 ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากอยู่ดีครับ
 
1 BenQ Joybook s42-LM01

สาเหตุที่คอม เม้นของรุ่นนี้มีจำนวนมาก เพราะรุ่นนี้มาพร้อมการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงในรุ่น Geforce 9600GT ซึ่งสามารถตอบสนองงานกราฟิก3D หนักๆ หรือเกมต่างๆ ได้อย่างสบายๆ และการ์ดจอประหยัดไฟออนบอร์ดรุ่นล่าสุดจากแพลตฟอร์มเซนทริโน 2 ของ Intel ในรุ่น GMA 4500MHD อีกทั้งมาพร้อมสเปกอื่นๆ ที่เด่นไม่แพ้กัน ได้แก่ แพลตฟอร์มเซนทริโน 2 ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น รับสัญญาณ WiFi ได้ดีขึ้นด้วยการ์ด Wireless 5300 รุ่นใหม่ ฮาร์ดดิสค์ขนาดสูงถึง 320GB จัดได้ว่ามีความจุสูงมากในโน๊ตบุ๊กเลย พร้อมรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ได้อีกมากมายในอนาคต และฟังค์ชั่นพิเศษที่เป็นจุดเด่นของ s42 เลยก็ว่าได้คือ ระบบ Hybrid (ในไทยที่มีขายแค่ 3 ยี่ห้อ 5 รุ่น) คือระบบการสลับระว่างการ์ดจอแยกกับการ์ดจอออนบอร์ด ตามความต้องการของ User ซึ่งจะเลือกได้ว่าเน้นประสิทธิภาพหรือประหยัดพลังงาน (ระบบนี้ทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้มากถึง 4.5 ชม) ทั้งหมดนี้มาในราคาแค่ 35,900 ซึ่งถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นรุ่นอื่นในตลาดแล้ว จะเห็นว่ามีราคาที่ถูกกว่าในประสิทธิภาพที่ไม่ต่างกันแม้แต่น้อย รุ่นนี้จึงได้รับความนิยมและมีคนพูดถึงมากที่สุดเพราะสเปกแรงในราคาที่คุ้ม ค่าจริงๆ

ขอบคุณที่มาของบทความ : www.toptenthailand.com

หมายเหตุ ข้อมูล ทั้งหมดที่ทาง Toptenthailand.com นำเสนอได้มาจากการสำรวจความคิดเห็นเชิงสถิติ ด้วยขั้นตอนที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของหัวข้อนั้นๆ ทางเว็บไซต์ Toptenthailand.com มิได้มีเจตนาที่จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเพื่อชี้นำ หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยกใดๆ ในสังคมทั้งสิ้น เราและทีมงานเพียงแต่ต้องการนำเสนอข้อมูลทางสถิติที่เรารวบรวมเพื่อเป็นสาระ และเป็นการสะท้อนอีกด้านหนึ่งของสังคม ให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต และประชาชนทั่วไปรับชมเท่านั้น (โปรดใช้วิจารณญาณในการชม และบริโภคข้อมูลจาก Toptenthailand.com) และหรือในบางกรณี www.Toptenthailand.com จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรวบรวม และนำเสนอข้อมูลในการจัดอันดับที่มีอยู่แล้วในสื่อต่างๆ ทั้งทาง Internet และสิ่งพิมพ์ โดยเราจะอ้างอิง ให้เครดิต ถึงแหล่งที่มาในทุกๆ ครั้งไป

Mazda Minagi ต้นแบบ CX5 ที่ใกล้ความเป็นจริง

ถ้าพูดถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่วางขายในปัจจุบันแล้ว เราต้องยอมรับว่าทุกวันนี้รถยนต์ที่มีความอรรถประโยชน์ ดูจะขายได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อรถที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบหมายถึงความคุ้มค่า ที่แน่นอนว่ารถประเภทนี้ย่อมเข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่มพอควร

มันคงไม่ง่ายนักที่จะออกแบบรถอเนกประสงค์ให้โดนใจลูกค้าทุกคนแต่ดูเหมือนงานนี้ค่ายรถยนต์ Mazda จะทกลองเอาเส้นสายแนวใหม่มาเพิ่มความสปอร์ต ตามคอนเซปต์ zoom-zoom ที่นับเป็นแนวทางที่ต้องการเติมความสปอร์ตไปในรถทุกรุ่น ที่วันนี้ SUV จากค่ายรถยนต์รายนี้ก็น่าสนใจด้วยเส้นสาย Kodo ที่ในอีกไม่ช้าคงจะลงตลาด

บนเวทีที่เจนีวา Mazda เรียกร้องความสนใจในค่ายด้วยการเปิดตัวครั้งแรกกของ Mazda Minagi ที่เคยเผยภาพสเก็ตกันไปแล้ว โดยค่ายรถยนต์รายนี้ ต้องการสื่อสารเส้นสายการออกแบบที่ดุดันมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันการพรีเซนท์รูปโฉมมาสด้ารุ่นต่อไป

Minagi ได้รับการออกแบบด้วยเส้นสายเดียวกับ Shinari ที่เปิดตัวไปในปีที่แล้ว และครั้งนี้แนวทางการออกแบบ Kodo ถุกใส่ไว้ใน DNA ของ Minagi ที่มาพร้อมตัวถังแบบ คอมแพ็ค crossover ที่น่าสนใจ

ด้านหน้า Minagi ให้ความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ด้วยความสปอร์ตที่สร้างเส้นสายใหม่เสน่ห์ แตกต่างจากเส้นสายการออกแบบในปัจจุบันเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละโทน ด้านหน้าที่ปราดเปรียว ดูสปอร์ตแต่เข้มขึ้น ด้วยตาที่โฉบเฉี่ยวให้ความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ด้านข้าง Minagi ลงตัวด้วย 5ประตูตามแบบฉบับรถอเนกประสงค์ที่มองดูมีความปราดเปรียวยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ เช่นเดียวเดียวกับไฟท้าย ในขณะที่ภายในห้องโดยสารก็มีความสปอร์ตมากกว่าที่เคยเป้น และนี่เป้นจิตวิญญาณของสปอร์ตคาร์ที่ถูกฝังไว้ในร่างของรถ SUV

ด้าน นาย คาซาชิ นาคายามะ หัวหน้าทีม ออกแบบ Mazda Minagi กล่าวว่า ในปีที่แล้วเราได้สร้าง Shinari ขึ้นมา แต่ในปีนี้เราอยากนำเสนออะไรที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผมรู้สึกว่ารถ SUV เป็นรถที่น่าจะมีความปราดเปรียวและโดดเด่นสะดุดตามากกว่า และเส้นสายทั้งหมดควรจะสอดคลอดกันในยามเคลื่อนไหว

ทั้งนี้ Mazda กล่าวว่า ในปีที่แล้วที่เรานำเสนอ shinari พร้อมคอนเซปต์การออกแบบใหม่ Kodo นั้นเป็นการเผยจิตวิญญาณการออกแบบใหม่ แต่ Minagi เป็นการออกแบบที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้นและนี่เป็นรูปโฉมใหม่ที่แม้จริงของรถรุ่นต่อไปจากเรา

อย่างไรก็ดี แม้ Mazda Minagi จะยังไม่มีแผนการวางจำหน่ายอย่างชัดเจน แต่กูรูในต่างประเทศต่างลงความเห็นว่า ในไม่ช้าเราจะได้เห็นรถรุ่นนี้ในฐานะ Production Car ของ Mazda CX5 ,CX7 และ CX9 ที่คาดว่าไม่นานเกินรอแน่นอน

กล้อง 8 ล้านของ iPhone 5 จะใช้ Image Sensor ของ Sony !!?

Walt Mossberg CEO ของ โซนี่ได้เปิดเผยว่า สถานที่สำหรับผลิต Image Sensor ที่จะส่งให้ Apple นั้นตอนนี้ได้รับผลกระทบจากสึนามิที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ Apple ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในขั้นตอนการผลิตไปอีกด้วย

เทคโนโลยีเซนเซอร์ของ Sony นั้นนับว่าแทบจะดีที่สุดซึ่ง Apple นั้นก็ได้ซื้อเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ของ Sony ในรุ่นที่ดีที่สุดไป  “แต่จากข่าวที่ลือกันออกมาว่า Sony ยังไม่ได้ให้เซนเซอร์ใดๆ ไปกับทาง Apple และจะมีบริษัท OmiVision เข้ามาทุ่มตลาดสำหรับ iPhone 5 ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งของความล่าช้าในกระบวนการผลิตของ iPhone 5 ก็เป็นได้”

Apple เองอาจจะได้รับการใส่เทคโนโลยีของ Image Sensor ใหม่โดย Sony รุ่น Exmor R ซึ่งเป็น Sensor ของกล้องที่ติดอยู่ในโทรศัพท์มือถือของ Sony Ericsson รุ่น Xperia

และเมื่อเร็วๆ นี้ ที่งาน MWC Expo ทาง Sony เอง ก็ได้ประกาศเปิดตัว Xperia neo ซึ่งมีกล้องที่ 8 ล้านพิกเซล และจัดการเกี่ยวกับแสงที่น้อยมากๆ ได้ดีอีกด้วย “ก็ได้มีรายงานออกมาอีกว่า iPhone รุ่นต่อไปหรือ iPhone 5 นั้น อาจจะใช้กล้องที่มีความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซล โดยเทคโนโลยีของ Sony ซึ่งมีหลักฐานหลายๆ อย่างที่จะมีความจริงอยู่บ้าง”

ต่อจากนี้เราก็รอดูครับ ว่า iPhone 5 จะมีอะไรแปลก แหวกแนวกว่าเดิมอีกหรือไม่ อย่าพลาดนะครับ ทีมงาน hitech.sanook.com จะตามเรื่องราว iPhone 5 กันอย่างเข้มข้นครับ