วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ซีเอ็ด เปิดร้านหนังสือบนมือถือทั้ง แอนดรอยด์ และ ไอโฟน/ไอแพด




"เอไอเอส"จับมือ"ซีเอ็ด"ยกร้านหนังสือมาไว้บนมือถือ เปิด SE-ED Application เกาะติดไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ประเดิมเปิดให้ลูกค้าดาวน์โหลดบน"แอนดรอยด์"ก่อนขยับไปยัง"ไอโฟน-ไอแพด"4 เม.ยนี้ สั่งซื้อ-จ่ายเงินผ่าน M-Pay ส่งถึงบ้านลดสูงสุด 15% ระบุคนไทยรักการอ่านแต่เข้าถึงหนังสือยาก เชื่อเทคโนโลยีช่วยลดช่องว่าง และต่อยอดธุรกิจทั้งร้านค้า-นักเขียน-สนพ.

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริการเสริม บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า เอไอเอสได้ขยายศักยภาพการให้บริการในทุกมิติต่อเนื่อง ทั้งด้านเครือข่าย, อุปกรณ์ดีไวซ์ และแอพพลิเคชั่นตามแนวคิด “Quality DNAs” โดยทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ให้ลูกค้า
และแวดวงหนังสือเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่มองเห็นเทรนด์ในการนำเทคโนโลยีไร้สายมาต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยกระแสการเติบโตของสมาร์ทโฟน และสมาร์ทดีไวซ์ ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่ พกพาสะดวก และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ง่ายดายทำให้เหมาะกับการเปิดรับข้อมูลรูปแบบต่างๆ ประกอบกับความนิยมเข้าถึงข้อมูลผ่านทางแอพพลิเคชั่นเพิ่มมากขึ้น
ล่าสุดจึงร่วมมือกับ“ซีเอ็ด”ผู้นำในธุรกิจหนังสือ ทั้งผลิตหนังสือเอง และผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ ปัจจุบันบริหารร้านหนังสือ ชื่อ “ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์”กว่า 382 สาขาทั่วประเทศถือเป็นร้านหนังสือเต็มรูปแบบที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้บริการ“SE-ED Application”ลูกค้าดาวน์โหลดฟรี รองรับบน iPhone, iPad, Android
โดยแนวคิดของ SE-ED Application คือการสร้างพื้นที่ Unlimited Space วางจำหน่ายหนังสือได้ไม่จำกัดจำนวนเล่มเสมือน Electronic Shelf บนมือถือเอไอเอสที่ลูกค้าแวะเข้ามาอัพเดทหนังสือที่ต้องการได้สะดวก ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้น และส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้คนไทยมากขึ้น
มีบริการต่างๆ ได้แก่ อันดับหนังสือขายดี TOP 100 รายวัน และTOP 100 รายสัปดาห์, อันดับหนังสือขายดีรายหมวด หนังสือออกใหม่, หนังสือแนะนำ, อ่านชิมลาง โดยดูสารบัญ บทนำ และเนื้อหาโดยย่อที่ช่วยให้ตัดสินใจเลือกหนังสือได้ตรงความต้องการมากขึ้น, ข่าวสาร กิจกรรมที่น่าสนใจทั้งใน และนอกแวดวงหนังสือ, โทรสายด่วนสั่งซื้อได้ทันทีพร้อมส่งถึงบ้าน, ส่งหนังสือแนะนำเพื่อนบน Facebook, Twitter และหมวดสินค้า AIS ที่วางจำหน่ายในร้านซีเอ็ดฯ เช่น แอร์การ์ด และเน็ตซิม
นอกจากนี้ คู่ค้าของซีเอ็ด เจ้าของหนังสือ และตัวแทนสาขาต่างๆ ยังเข้ามาอัพเดทอันดับหนังสือขายดี TOP 100 รายวันและรายสัปดาห์ รวมถึงรายหมวด เพื่อนำข้อมูลไปบริหารจัดการด้านต่างๆ ได้ เช่น เตรียมการเรื่องสต็อกได้ทันตามความต้องการของลูกค้า ตลอดจนวางแผนกระตุ้นตลาดให้หนังสือได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
กรณีซื้อหนังสือซีเอ็ด และสำนักพิมพ์ที่ร่วมรายการ รับส่วนลดสูงสุด 15% โดยชำระเงินผ่าน mPAY หน้าแอพฯ ได้เลยพร้อมจัดส่งถึงบ้าน หรือส่งแชร์หนังสือไปแนะนำเพื่อนบน Facebook และTwitter ก็ได้
ด้านนายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทิศทางของซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ มุ่งเน้นความสะดวก ความหลากหลาย ความรวดเร็ว และประสบการณ์ที่ประทับใจ ซึ่ง “SE-ED Application” ตอบโจทย์ และคาดว่าจะช่วยให้คนไทยเข้าถึงโลกของหนังสือได้ง่ายขึ้น
"เราเชื่อว่าไม่ใช่คนไทยไม่รักการอ่าน แต่อ่านน้อย เพราะเข้าถึงหนังสือได้ยากจึงช่วยย่อโลกของหนังสือที่หลากหลายเข้ามาอยู่ใกล้ชนิดชิดติดฝ่ามือบนโลกออนไลน์ทำให้เข้าถึงแหล่งหนังสือ สื่อการศึกษา ตลอดจน nonbook ที่น่าสนใจได้ผ่านความร่วมมือจากเอไอเอส"
"SE-ED Application"ใช้ได้บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยกด*900*41# โทรออกเพื่อรับลิงค์สำหรับ iPhone และ iPad เริ่มดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.54



เครื่อง Google Nexus S เปิดตัวในไทยจันทร์นี้ เจ๋งกว่าด้วย NFC





หลายๆคนอาจจะพอคุ้นหรือบางทีก็อาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่า Google เองนั้นมีโทรศัพท์ของตนเองเช่นกันในชื่อรุ่นว่า Nexus ซึ่งในเครื่องรุ่นแรกของ Nexus นั้นชื่อว่า Nexus One ซึ่งทาง Google ให้ทาง HTC เป็นผู้ผลิตเครื่องให้ แต่รุ่นดังกล่าวนั้นออกมาขายเพียงไม่นาน และไม่กี่ประเทศด้วยซึ่งก็หมดไปอย่างรวดเร็ว พอมารุ่นที่ของ Nexus ทาง Google จึงให้ชื่อว่า Nexus S และได้เปลี่ยนโรงงานการผลิตมาเป็นทาง Samsung แทน ซึ่งโดยคอนเซ็ปของเครื่องในแบบ Nexus ว่ากันไว้ก็คือ มันคือเครื่องที่ออกแบบตามความต้องการของทาง Google โดยเฉพาะเพื่อให้เหมาะกับระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ ของทาง Google เพราะในปัจจุบันระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์นั้น มีผู้ผลิตเครื่องหลายเจ้าและนำระบบปฎิบัติการของทาง Google ไปใส่ไว้ ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพย่อมไม่น่าจะสู้เครื่องที่ทาง Google ออกแบบผลิตทั้งตัว Hardware และ Software เอง
และในตอนนี้ Samsung ในประเทศไทยก็เตรียมจะนำเครื่อง Nexus S เข้ามาจำหน่าย ซึ่งผมเองก็เพิ่งได้รับจดหมายเชิญงานเปิดตัวในวันจันทร์ 28 มีนาคม 2554 นี้ ซึ่งในจดหมายไม่ได้บอกว่าเป็นการเปิดตัวแต่เป็นการแถลงข่าวเรื่องของ Nexus S ซึ่งก็เดาว่ามันก็คือแถลงข่าวเปิดตัวนั่นแหละครับ โดยราคาค่าตัวของ Nexus S นั้นที่ทราบแบบไม่เป็นทางการจะอยู่ประมาณ 18,900 บาท + -
สำหรับจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้เท่าที่เห็นๆกันก็คือ  ซีพียูความเร็วขนาด 1GHz  Hummingbird แรมขนาด 512MB หน่วยความจำภายในเครื่อง 16 GBหน้าจอเป็น Super AMOLED ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 พิกเซลและที่ทราบมา “Nexus S” ที่วางขายในไทยอาจจะใช้หน้าจอแบบ Super-Clear LCD เช่นเดียวกับ Galaxy S และจุดเด่นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่ยังไม่มีในมือถือรุ่นใดๆก็คือ เป็นเครื่อง PDA Phone เครื่องแรกที่บรรจุชิพ near-field communications ไว้ในตัวเครื่อง ซึ่งทำให้เครื่อง Nexus S นั้นเปรียบเสมือนกระเป๋าเงินอิเลคโทรนิค ในการจ่ายชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ที่เรามักจะเห็นในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น เวลาขึ้นรถไฟก็ไม่ต้องควักกระเป๋าสตางค์จ่าย เพียงแค่เอาโทรศัพท์ลูบผ่านเครื่องสแกนเท่านั้น
นอกจากนั้นยังมีลูกเล่นอื่นๆที่น่าสนใจหลายๆด้านเช่น  multi-tasking  การใช้งาน Wi-Fi hotspot ที่สามารถแชร์เน็ตได้สะดวกรวดเร็ว และกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม Flash LED  ตัวเครื่องขนาด 123.9 x 62 x 10.88 มม. น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ 129 กรัม ระบบปฏิบัติการ Android 2.3 ส่วนลูกเล่นอื่นๆและราคาอย่างเป็นทางการคงต้องรอกันในวันแถลงข่าวอีกครั้ง สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ แอนดรอยด์ ก็ลองพิจารณาเครื่องรุ่นนี้ดูครับ อย่างน้อยๆก็น่าจะตกรุ่นช้ากว่ารุ่นอื่น เพราะที่ผ่านมา Google ออกมือถือแค่ปีละรุ่นเท่านั้น





วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

8 วิธีรอดตายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

 
เหตุแผ่นดินไหวทางตะวันออกของพม่า ใกล้ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 6.7 ริกเตอร์ เมื่อค่ำวานนี้ (24 มี.ค.) แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงกรุงเทพฯ ส่งผลให้อาคารสูงหลายแห่ง ตั้งแต่จังหวัดภาคเหนือลงมาถึงกรุงเทพฯ สั่นไหวนานหลายวินาที จนประชาชนที่พักอยู่บนตึกสูงต่างแตกตื่นวิ่งลงมารวมตัวกันอยู่บริเวณท้องถนน และยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกเป็นระลอก เหตุการณ์ดังกล่าวแม้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังอยู่ในอาการวิตกกังวล
แผ่นดินไหวจึงไม่ใช่ เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้วสำหรับคนไทย เรามาเตรียมพร้อมด้วย 8 วิธีรอดตาย ในขณะเกิดแผ่นดินไหวกันดีกว่า
1.ตั้งสติ ถ้าบ้านแข็งแรงให้อยู่ในบ้าน ถ้าไม่แข็งแรงให้รีบออกจากบ้าน
2.ถ้าอยู่ในบ้าน หมอบในจุดที่แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก ห่างจากประตู หน้าต่าง ระเบียง
3.ถ้าอยู่ในตึกสูง รีบออกจากตึก หนีห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้
4.ถ้าอยู่ในที่โล่ง ให้อยู่ห่างเสาไฟฟ้า ต้นไม้สูง และสิ่งห้อยแขวนต่างๆ
5.อย่าจุดไฟ เทียน หรือหลีกเลี่ยงประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วในบริเวณใกล้ๆ
6.ถ้ากำลังขับรถ ให้อยู่ในรถ หรือ หลบข้างรถ รอจนการสั่นสะเทือนหยุด
7.ห้ามใช้ลิฟท์เด็ดขาด เพราะไฟฟ้ามักจะดับ ทำให้ออกมาไม่ได้
8.ถ้าอยู่ชายฝั่ง ให้ออกจากชายฝั่งมากที่สุด เพราะอาจเกิดคลื่นยักษ์ซัดเข้ามา
ขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก ARIP

มาดู iPad 2 ที่เวอร์ที่สุดและแพงที่สุดในโลกกัน!

หากคุณคิดว่า iPad 2 แถว MBK แพงแล้ว มาเจอเจ้านี่น่าจะต้องคิดใหม่ เพราะแบรนด์ต่างประเทศอย่าง Stuart Hughes ที่ขึ้นชื่อเรื่องนำสินค้าที่มีขายอยู่ทั่วไป มาปรับแต่งจนกลายเป็นอภิมหาสินค้าราคาหลายล้าน ได้หยิบเอา iPad 2 มาทำใหม่กับเขาด้วย ในชื่อ iPad 2 Gold History Edition นั่นเอง
แค่ฟังจากรายละเอียดสินค้าก็ต้องบอกว่าเวอร์มหาเวอร์แล้ว เพราะเจ้า iPad 2 Gold History Edition นี้ตัวเครื่องทำมาจากทองคำแท้ๆ หนักถึง 2 กิโลกรัม แล้วตรงโลโก้ Apple ด้านหลังก็ประดับไปด้วยเพชรเกรดสูงจำนวน 12.5 กะรัต ส่วนด้านหน้าก็เวอร์ไม่แพ้กันเพราะตัวกรอบหน้าทำมาจาก Ammolite ซึ่งเป็นแร่หินเก่าแก่ที่สุดในโลกจากแคนาดา อายุกว่า 75 ล้านปี โดยมีการนำกระดูกไดโนเสาร์พันธ์ไทแรนนอซอรัสหรือ T-REX ที่เราคุ้นเคยกันดีอายุกว่า 65 ล้านปีมาผสมเข้ากับหิน Ammolite ที่กรอบด้านหน้าอีกต่างหาก

ยัง! ยังไม่หมดเท่านั้น ตัวปุ่ม Home ด้านหน้าเครื่องทำมาจากเพชรเม็ดใหญ่จำนวน 8.5 กะรัต และล้อมรอบไปด้วยเพชรเม็ดเล็กอีก 12 เม็ด

ทั้งหมดนี้ราคาก็เบาะๆ แค่ 5 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 250 ล้านบาท และผลิตเพียง 2 ชิ้นในโลกเท่านั้น!

ใครอยากเห็นสินค้าสุดเวอร์อื่นๆ สามารถตามไปดูได้ที่ http://stuarthughes.com/ กันเลย

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

Samsung Galaxy Tab รุ่นจอ 8.9 !

จนถึงปัจจุบันทุกวันนี้ ยังไม่มีใครตอบได้แบบตรงๆว่า ขนาดหน้าจอของเครื่อง Tablet ยอดฮิตกันในทุกวันนี้ ควรจะมีขนาดหน้าจอที่เท่าไร และหน้าจอขนาดไหนคือขนาดหน้าจอที่เหมาะที่สุด แต่หากถามทาง Apple ก็ต้องตอบว่า 9.7-10 นิ้ว คือคำตอบสุดท้าย แต่หากมองในแง่คนใช้ขนาดหน้าจอที่ 7 นิ้วก็บอกว่า มันขนาดกำลังดีพกพาได้สะดวกด้วย แต่ความจริงแล้ว ขนาดที่เหมาะสมของ Tablet นั้นมันคงจะขึ้นอยู่แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลมากกว่า บางคนใช้ iPad สักพักเห็นเพื่อนๆใช้เครื่องหน้าจอ 7 นิ้วก็ขายเปลี่ยนตามไปก็มี เพราะผมเห็นมาหลายรายแล้วเหมือนกัน คือสรุปง่ายๆ ใครจะใช้ Tablet ต้องมีจุดยืนของตัวเอง  พอพูดถึงคำว่าจุดยืนแล้วนึกถึงคำของ ท่าน คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ชอบนิยามคำว่า จุดยืนของแกมาก " จุดยืนของกูคือขาทั้งสองข้างของกูเอง "  เอาเป็นว่าหน้าจอ Tablet ขนาดไหนดีสุดนั้นอยู่ที่ความพอใจของคนที่ใช้เอง อย่าไปฟังคนอื่นมากเดี๋ยวเขว
ปัญหาเรื่องขนาดหน้าจอที่ยังสรุปกันไม่ ลงตัวนี้ ไม่ใช่มีเพียงผู้ใช้ชาวไทยเท่านั้น เพราะในต่างประเทศเองก็เป็น เลยทำให้เห็นว่าในปีนี้เครื่องที่เป็น Tablet นั้น หลายๆยี่ห้อเริ่มออกเครื่องขนาดหน้าจอต่างๆออกมาเอาใจผู้ใช้ เช่น Samsung เองเมื่อก่อนทำแต่หน้าจอ 7 นิ้ว ตอนนี้ก็เริ่มมี 8.9 และ 10 ตามมา รวมทั้ง HTC ที่ตอนแรกจะออก Flyer ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว แต่ทำไปทำมาหน้าจอขนาด 10 นิ้วก็กำลังตามมา
สำหรับเครื่อง Samsung Galaxy Tab นั้น ในตอนนี้มีภาพข้อมูลเครื่องตัวใหม่ขนาด 8.9 เอามาฝากกันแล้วครับ โดยจะเป็น Tablet ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย แต่ก็ไม่ถึง 10 นิ้ว เอาแค่ใหญ่มากขึ้นแต่ยังพอพกพาได้สะดวกเหมือนเดิม โดยตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 470 กรัม หนา 8.6 mm ในความละเอียดหน้าจอที่ 1280x800 พิกเซล จอแบบ WVGA โดยจะใช้ซีพียู ที่ 1GHz แบบ Dual Core ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ 3.0
เครื่องรุ่นนี้คงจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยแน่นอน แต่สำหรับราคานั้นยังไม่เปิดเผยครับ คงจะเป็นเครื่องที่ราคาเบากว่าGalaxy Tab2

ไม่ต้องมีดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ก็มีสิ่งมีชีวิตได้

สิ่งมีชีวิตบนโลก และกลไกลทางชีววิทยาทั้งมวลบนโลก ล้วนขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานจากดวงอาทิตย์ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ดวงอาทิตย์จึงเปรียบเสมือนมารดาของสรรพชีวิตบนโลก หากจะมีดาวเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งในระบบสุริยะอื่นจะมีสิ่งมีชีวิตบ้าง ก็จะต้องอยู่ในเงื่อนไขเดียวกับโลก นั่นคือจะต้องรับพลังงานจากดาวฤกษ์ที่ตนเป็นบริวารอยู่
แต่การศึกษาใหม่โดยนักเอกภพวิทยาจากมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า ดาวเคราะห์คล้ายโลกก็อาจมีอุณหภูมิสูงพอจะเอื้ออาศัยได้โดยไม่ต้องมีดาวฤกษ์ โดยมีแหล่งความร้อนจากการสลายของธาตุกัมมันตรังสีภายในดาวเคราะห์เอง และมีชั้นน้ำแข็งห่อหุ้มเป็นฉนวน
ต้นกำเนิดของงานวิจัยนี้มาจากความขี้สงสัยของนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมคนหนึ่งที่เกิดสงสัยว่า โลกจะเป็นอย่างไรหากไม่มีดวงอาทิตย์ แนวคิดนี้กระตุ้นให้สหาย เอริก สวิตเซอร์ ซึ่งเป็นนักเอกภพวิทยา เริ่มงานวิจัยเพื่อไขปัญหานี้
ผลการคำนวณของสวิตเซอร์เผยว่า หากไม่มีพลังงานจากดาวฤกษ์แล้ว ดาวเคราะห์แบบโลกจะต้องมีแผ่นน้ำแข็งหนา 15 กิโลเมตรปกคลุมอยู่เพื่อทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนที่เกิดจากการสลายของธาตุกัมมันตรังสีภายในดาวเคราะห์ เช่น โพแทสเซียม-40 ยูเรเนียม-238 และ ทอเรียม-232 รวมถึงพลังงานดั้งเดิมที่ตกค้างมาจากการสร้างดาวเคราะห์ด้วย
หรือหากน้ำแข็งหนาไม่ถึง 15 กิโลเมตร ก็ยังปกป้องความร้อนจากภายในได้ หากมีชั้นบรรยากาศเยือกแข็งเช่นน้ำแข็งแห้ง ซึ่งก็คือคาร์บอนไดออกไซค์เยือกแข็ง ปกคลุมอีกชั้นหนึ่ง
ดาวเคราะห์ที่มีลักษณะเช่นนี้ จะอุ่นพอที่จะให้มีสิ่งมีชีวิตวิวัฒน์และดำรงอยู่ได้
"โลกเราก็อาจมีลักษณะแบบนั้นได้หลังจากที่ดวงอาทิตย์ดับไปแล้วประมาณ 10,000 ล้านปี ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นน้ำในมหาสมุทรจะเย็นจนกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด" โดเรียน แอบบอต นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชิคาโกกล่าว
สวิตเซอร์ไม่ได้คาดไปถึงว่า สิ่งมีชีวิตในดาวเคราะห์ที่ไม่มีดาวฤกษ์จะมีลักษณะเช่นใด แต่ดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีกับดาวเสาร์ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งปกคลุมอาจให้แนวคำตอบนี้ได้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าดวงจันทร์ยูโรปาและคัลลิสโตของดาวพฤหัสบดีและเอนเซลาดัสของดาวเสาร์มีชั้นของมหาสมุทรใต้พิภพที่เป็นของเหลวอยู่ มีแหล่งพลังงาน มีน้ำ และมีสภาพเคมีอย่างที่ชีวิตต้องการ
ความคิดว่าอาจมีดาวเคราะห์บางดวงที่พเนจรอย่างอิสระไม่โคจรรอบดาวฤกษ์ไม่ใช่ความคิดที่เพ้อเจ้อเสียทีเดียว นักดาราศาสตร์ได้คำนวณว่าการรบกวนกันเองระหว่างดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ หรือการรบกวนจากดาวฤกษ์ที่ผ่านเข้ามาใกล้ อาจทำเกิดแรงเหวี่ยงให้ดาวเคราะห์หลุดกระเด็นออกจากระบบสุริยะได้
จากแบบจำลองการกำเนิดระบบดาวเคราะห์แสดงว่ามีโอกาสเกิดดาวเคราะห์ประเภทนี้อยู่มากมาย โดยเฉลี่ยแล้วอาจมี 1-2 ดวงต่อระบบสุริยะ
แม้แต่ระบบสุริยะของเราเอง ก็อาจเคยเกิดเหตุการณ์นี้มาก่อน โลกเราอาจเคยมีดาวเคราะห์พี่น้องร่วมครอบครัวที่ลักษณะใกล้เคียงกันแต่ได้หลุดออกจากระบบไปนานแล้ว เพียงแต่ทฤษฎีนี้ยังขาดหลักฐานยืนยันเท่านั้นเอง
ที่มา:Orphan Planets Could Support Life - Discovery News

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

Sony เผยวางจำหน่าย Xperia Play ครั้งแรก 31 มีนาคม นี้



Sony เผยแล้วข้อมูลวันวางจำหน่ายของ Sony Xperia Play ชาวเมืองผู้ดีอังกฤษมีเฮ ได้ฤกษ์เป็นเจ้าของเป็นประเทศแรกสุด หลังจากรอคอยกันมาเป็นเวลานานสำหรับ Sony Xperia Play ที่เรียกได้ว่าขนาดยังไม่ได้มีการวางจำหน่ายก็มักมีทั้งข่าวหลุดหรือภาพหลุด ออกมาเผยแพร่ในโลกอินเตอร์เน็ทอยู่เสมอๆ ล่าสุดได้มีการเผยข้อมูลออกมาถึงวันวางจำหน่ายที่ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมา เพียงแต่ว่าภายในเดือนมีนาคมนี้เท่านั้น

โดยวันวางจำหน่ายดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้ ในประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงการกระจายเครื่องออกไปวางจำหน่ายตามหน้าร้านของ ประเทศอื่นๆว่า Sony จะมีการนำเครื่องไปวางจำหน่ายกับทุกๆโอเปอร์เรเตอร์และทุกๆผู้แทนจำหน่าย ทั่วโลก แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดการณ์การวางจำหน่ายของประเทศอื่นๆที่นอก เหนือจากประเทศอังกฤษเพิ่มเติมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม Sony Xperia Play ยืนยันวางจำหน่ายพร้อม pre-installed สุดยอดเกมถึง 6 เกมเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเวลาแห่งการรอคอย Xperia Play ใกล้จะหมดลงทุกทีแล้ว

สนับสนุนเนื้อหา

"อย่าสัญญากับใครถ้าคุณทำไม่ได้"

"อย่าสัญญากับใครถ้าคุณทำไม่ได้"

เด็กสาวตาบอดคนหนึ่ง เกลียดตัวเองที่มองอะไรไม่เห็น

เธอเกลียดทุกคนยกเว้นแฟนหนุ่มของเธอ

วันหนึ่งเธอบอกกับเขาว่า ถ้าเธอมองเห็น เธอจะแต่งงานกับเขา

แล้ววันหนึ่ง โชคก็เดินทางมาถึง มีคนบริจาคดวงตาให้เธอ!

เธอจึงมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งแฟนของเธอ

เขาจึงถามเธอว่า "ตอนนี้เธอมองเห็นแล้ว เธอจะแต่งงานกับฉันไหม"

เด็กสาวตกใจมากที่เห็นว่า เขาตาบอด!

เธอตอบเขาว่า "ขอโทษนะ ฉันแต่งงานกับเธอไม่ได้หรอก เพราะเธอ

มันตาบอด"

แฟนของเธอเดินจากไปพร้อมน้ำตา

เขาบอกกับเธอว่า "งั้น...ช่วยดูแลดวงตาของฉันให้ดีก็แล้วกันนะ"


ที่มา : FW

ภาพล่าสุด iPhone 5 ชี้ชัดรุ่นใหม่ใช้จอ 4 นิ้วแน่!

เว็บไซต์ iDealsChina จากประเทศจีนรายงานข่าวว่าพวกเขาเพิ่งจะได้รับภาพร่างดีไซน์ต้นฉบับของ iPhone 5 ว่าที่สมาร์ตโฟนแห่งปี 2011 มาจากแหล่งข่าวภายในบริษัท Apple ซึ่งภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ายักษ์ใหญ่จาก Cupertinoเตรียมตัวที่จะสู้กับสมาร์ตโฟนจอยักษ์ในระบบ Android OS ทั้งหลายด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 4 นิ้วนั่นเอง
โดยในภาพต้นแบบ iPhone 5 ที่ได้รับการเปิดเผยออกมานั้นได้ถูกเผยแพร่ออกไปให้กับเหล่านักพัฒนาเคสทั้งหลายเพื่อผลิตเคสรุ่นใหม่ให้เข้ากับตัวเครื่องของ iPhone 5 นั่นเอง ซึ่งหากดูกันในส่วนของดีไซน์โดยรวมแล้วก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่างจาก iPhone 4 เลย ยกเว้นก็แต่หน้าจอของ iPhone 5 จะขยายพื้นที่เข้ามาจนชิดกรอบซึ่งทำให้หน้าจอ iPhone 5 มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
สำหรับรายละเอียดของ iPhone 5 นั้นยังแทบจะเรียกได้ว่ายังคงเป็นปริศนาดำมืดสำหรับสาวก Apple ทั้งหลายอยู่ในเวลานี้ ซึ่งพวกเขาก็ได้แต่คาดเดากันไปว่า iPhone 5 น่าจะมาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวล A5 แบบ Dual-Core ตัวเดียวกับใน iPad 2, ระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition), เทคโนโลยีการชำระเงินไร้สาย NFC (Near-Field Communication) รวมถึงเป็นสมาร์ตโฟนแบบ World Phone ที่สามารถรองรับได้ทั้งระบบ GSM และ CDMA อีกด้วย
บทความโดย: ekk TechXcite
ที่มา: idealschina

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

กาแฟขี้ชะมดแก้วละ 500 - 1,500 บาท กิโลกรัมละ 1 แสนบาท

 ตะลึง! ชาวเมืองกาญจนบุรีแห่ชิมกาแฟสดผลิตจากขี้ชะมดแก้วละ 500-1,500 บาท พบลูกค้าเข้าชิมจำนวนมาก บางรายยอมซื้อไปปรุงเองที่บ้านกิโลกรัมละ 1 แสนบาท เจ้าของร้านเผยค้นพบสูตรรสชาดเข้มข้นสำเร็จแห่งแรกของประเทศไทย และมีเพียงแห่งเดียวที่เมืองกาญจน์ ขณะที่ลูกค้าบอกรสดี หอม จึงยอมควัก 500 บาทต่อแก้ว
image
       
       เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (7 มี.ค.54) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณร้านกาแฟสดจากไร่คุณหญิง เลขที่ 105 หมู่ 1 ถ.แสงชูโต ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากทราบข่าวว่ามีคอกาแฟทยอยเดินทางมาที่ร้าน เพื่อดื่มกาแฟสดที่ผลิตจากขี้ชะมดในราคาแก้วละ 500-1,500 บาท บางรายขอซื้อกลับบ้านเพื่อนำไปชงดื่มเองในราคากิโลกรัมละ 1 แสนบาท เมื่อไปถึงพบนายสุรเชษฐ์ ยุทธสุนทร และนางสุจิตรา ยุทธสุนทร สองสามีภรรยาเจ้าของร้านและพนักงานกว่า 10 คนกำลังทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าอย่างขะมักเขม้น
       
       นายสุรเชษฐ์ ยุทธสุนทร เจ้าของร้านกล่าวว่า ลูกค้าที่เดินทางมาที่ร้านมีทั้ง ข้าราชการ นักธุรกิจ รวมทั้งถึงประชาชนทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีรสนิยมชอบดื่มกาแฟสดทั้งหมด ที่สำคัญลูกค้าจะสั่งกาแฟสดที่ผลิตขึ้นจากมูลของตัวชะมด (หรืออีเห็น) ที่เราเรียกกัน โดยกาแฟชนิดนี้ขายราคาแก้วละ 500 บาทถึงแก้วละ 1,500 บาท อยู่กับลูกค้าว่าต้องการกาแฟรสชาดแบบไหน ส่วนปริมาณเท่ากับแก้วกาแฟตามร้านทั่วไป ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงแต่ลูกค้าก็พร้อมจะควักกระเป๋าจ่ายอย่างเต็มใจ และมีลูกค้าบางรายขอซื้อกาแฟสดซึ่งเป็นวัตถุดิบเพื่อนำไปชงดื่มที่บ้านในราคา กิโลกรัมละ 100,000 บาท เหตุที่กาแฟชนิดนี้มีราคาแพงก็เพราะว่าวัตถุดิบนั้นหายากและขั้นตอนการผลิตก็มีความละเอียดอ่อนใน 1 ปีถึงจะมีกาแฟชนิดนี้ให้บริการลูกค้า
      
image

       จุดเริ่มต้นคือเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาในความที่ตนเป็นคนชอบค้นหาสูตรกาแฟที่มีรสชาติที่แปลกใหม่ และได้ค้นพบในเว็ปไซต์ของประเทศอินโดนีเซีย จึงรู้ว่าประเทศนี้มีวิธีการผลิตกาแฟที่แปลกมาก คือผลิตกาแฟจากมูลของตัวชะมด ซึ่งหลังจากที่ตนได้อ่านรายละเอียดในเว็บไซด์ จนเข้าใจ ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าน่าจะลองทำดูบ้างจึงปรึกษากับภรรยา ซึ่งก็เห็นด้วย และเป็นความโชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือ ก่อนหน้านั้นมีชาวบ้านนำตัวชะมด 2 ตัวเพื่อมาขายให้กับร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตนเห็นเข้าเกิดความสงสารจึงขอซื้อชะมดทั้ง 2 ตัว และนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน จนในที่สุดก็ออกลูกเพิ่มมาอีก 4 ตัว รวมเป็น 6 ตัว ปัจจุบันมีตัวชะมดอยู่ประมาณ 20 ตัว
       
       สำหรับกาแฟที่ตนปลูกไว้มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ เป็นสายพันธุ์ โรบัสต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ตัวชะมดชอบกินเมล็ดสุกเป็นอาหาร ตนจึงได้ทดลองนำตัวชะมดไปปล่อยในไร่กาแฟ โดยใช้สูตรชะมด 1 ตัว ต้นกาแฟ 4 ต้น ใช้ตาข่ายกั้นเอาไว้กันการหลบหนี ปรากฏว่าหลังจากตัวชะมดได้กินเมล็ดกาแฟเข้าไปจากนั้นได้ถ่ายมูลออกมามีลักษณะเป็นแท่งที่มีเมล็ดกาแฟติดกันเป็นเกรียว จะสังเกตเห็นว่าโดยรอบจะมีเอมไซม์และสารเคมีที่มีอยู่ในกระบวนการย่อยอาหารของมันติดออกมาด้วย และนั่นคือวัตถุดิบที่ต้องการนำมาผลิตเป็นกาแฟสด
      
image

       แต่อย่างไรก็ตามกระบวรการการผลิตนั้นตนและภรรยาได้ลองผิดลองถูกมานานกว่า 3 ปี จึงสามารถนำออกมาจำหน่ายให้กับลูกค้าได้ ซึ่งสรรพคุณของกาแฟที่ผลิตจากมูลของตัวชะมด นอกจากมีรสชาดที่เข้มข้นเป็นที่ติดใจของบรรดาคอกาแฟทุกคนแล้วยังเชื่อว่าจะสามารถบำรุงรักษาอวัยวะภายในของคนเราได้
       
       นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนแรกของประเทศไทยที่สามารถคิดสูตรการปรุงกาแฟผลิตจากมูลชะมดที่มีรสชาติแปลกใหม่ และเข้มข้นได้สำเร็จ แต่ปัจจุบันได้กระจายไปตามจังหวัดต่างๆ แต่ยังไม่มากนัก โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคใต้ และภาคกลาง ส่วนจังหวัดกาญจนบุรีมีที่ร้านของตนเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่มีกาแฟชนิดนี้ไว้บริการลูกค้า โดยกาแฟชนิดนี้เป็นความต้องการของชาวต่างชาติเป็นอย่างมากโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น เกหลีใต้ และทวีปยุโรป
       
       "สำหรับตัวชะมด เป็นสัตว์คุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แต่มีกฎหมายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกมาเมื่อ พ.ศ.2546 ให้ชะมดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดเพาะพันธุ์ได้ ในอนาคตตัวชะมดถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี และจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศมูลค่ามหาศาล ซึงปัจจุบันสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (สพภ.) จะมีโครงการส่งเสริมให้ประชาชนเลี้ยงตัวชะมดในเชิงพาณิชย์ เพราะสามารถสร้างรายได้ให้ประชาชนเป็นอย่างดี" นายสุรเชษฐ์ เจ้าของร้านกาแฟสดจากไร่คุณหญิงกล่าว
       
       ด้านนายยุตติ บุญสวัสดิ์ ลูกค้าประจำร้านดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนชอบดื่มกาแฟและเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งหลังจากทางร้านผลิตกาแฟที่ทำจากมูลตัวชะมด ครั้งแรกก็ไม่กล้าดื่มเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเริ่มเห็นบรรดาคอกาแฟดื่มกันมากขึ้น จึงตัดสินใจควักกระเป๋าสตางค์ 500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกที่สุด แต่แพงที่สุดเท่าที่ตนเคยซื้อกาแฟดื่มมาในชีวิต แต่หลังจากได้ทดลองดื่ม รู้สึกว่า กาแฟมีกลิ่นที่หอมหวน รสชาติแปลกใหม่ และเข้มข้นขึ้น ทำให้เงิน 500 บาทที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
 
image
image

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์

ที่รองแก้วไอเดียเก๋ๆ


ที่รองแก้วไอเดียเก๋ๆ
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี
ที่รองแก้ว รองดีดี กับไอเดียดีดี